เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ประจำปี 2566 ซึ่งประกาศรับสมัครตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.-6 มิ.ย.2566 ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) จำนวน 205 แห่ง ในจำนวน 63 กลุ่มวิชา ตำแหน่งว่าง 7,814 อัตรา ซึ่งขณะนี้เป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัครแล้ว โดยภาพรวมตั้งวันแรกของการเปิดรับสมัครเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมียอดผู้สมัครกว่า 128,390 คนคน ซึ่งจะพบปัญหาทางเทคนิคเล็กน้อยจากผู้สมัครผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น เนื่องจากอาจติดปัญหาระบบล่มหรือการดาวน์โหลดข้อมูลเอกสารที่ไม่สมบูรณ์ รวมถึงการออกเอกสารวุฒิบัตรหรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แต่เท่าที่รับรายงานการดำเนินการขั้นตอนการรับสมัครผ่านไปด้วยดี
เลขาธิการกพฐ.กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเด็นการออกข้อสอบที่อยากให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นนั้น โดยเรื่องการออกข้อสอบสพฐ.ได้มอบหมายให้อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยในท้องถิ่นไปกำหนดว่าจะออกข้อสอบอย่างไร ซึ่งในที่สุดเนื้อหาข้อสอบจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เป็นผู้กำหนด ส่วนความยากง่ายก็เชื่อว่าจะมีความยืดหยุ่นให้แน่นอน เนื่องจากสพฐ.มีความคาดหวังว่าวันนี้นักศึกษาครูที่จบการศึกษาทุกคนพร้อมจะเป็นครู แต่ใครจะได้เป็นก่อนหรือเป็นหลังก็ถือว่ามีบททดสอบจากสนามสอบครูผู้ช่วยในครั้งนี้เป็นตัวกำหนด ซึ่งเราก็อยากให้ครูผู้สมัครสอบทุกคนสอบได้ทั้งหมด
ต่อข้อถามว่า ขณะนี้มีเบาะแสข้าราชการสพฐ.ไปจัดติวข้อสอบนั้น นายอัมพร กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่เห็นข้อมูลหรือเรื่องร้องเรียนแต่อย่างใด เพราะตนได้ออกหนังสือกำชับไปแล้วว่าการสอบครั้งนี้จะต้องโปร่งใสอย่ามีเรื่องตุกติกเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด ซึ่งหากใครมีหลักฐานสามารถแจ้งมาที่ตนได้โดยตรง โดยพร้อมจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา
เลขาธิการกพฐ.เผย ยอดสมัครครูผู้ช่วยวันสุดท้ายคนแห่สมัครทะลุหลักแสน ตำแหน่งว่าง 7,814 อัตรา เชื่อข้อสอบปีนี้ยืดหยุ่นมากขึ้น ปัดมีข้าราชการสพฐ.จัดติวข้อสอบ ชี้ มีเบาะแสไม่ชอบมาพากลแจ้งร้องเรียนได้ทันที
ที่มา ; เดลินิวส์ออนไลน์ 6 มิถุนายน 2566
ข่าวเกี่ยวกัน
แห่สมัครครูผู้ช่วย1.7 แสนราย รับ 7.8 พันอัตรา
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน นายสุรินทร์ มั่นประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สพฐ. เปิดรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม ถึงวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น ข้อมูลเบื้องต้น มีผู้สมัครอยู่ที่ 171,954 คน ใน 205 เขตพื้นที่ฯ อัตราว่างที่สามารถบรรจุแต่งตั้งได้จำนวน 7,813 อัตรา ใน 63 กลุ่มวิชา โดยมีเขตพื้นที่ฯ ที่ไม่เปิดรับสมัครสอบ 41 แห่ง สำหรับ กลุ่มวิชา หรือทางหรือสาขาวิชาเอก ที่มีผู้สมัครมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ ปฐมวัย/การศึกษาปฐมวัย/อนุบาลศึกษา 21,530 คน สังคมศึกษา 19,771 คน ภาษาอังกฤษ 16,698 คน คณิตศาสตร์ 16,108 คน และพลศึกษา 15,741 คน ส่วนกลุ่มสาขา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอก ที่ไม่มีผู้สมัคร คือ อรรถบำบัด และภาษาอังกฤษธุรกิจ สำหรับอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา /อ.ก.ค.ศ.สศศ.ที่มีผู้สมัครสอบมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ สศศ. 4,492 คน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สระแก้ว เขต1 จำนวน 3,135 คน สพป.สงขลา เขต 3 จำนวน 3,019 คน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) นนทบุรี 2,808 คน และสพป.บึงกาฬ จำนวน 2,708 คน
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมการรับสมัครเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่พบปัญหาใน 3 ประเด็น คือ
1. ตัวผู้สมัครไม่มีความพร้อมเรื่องเอกสาร เช่น มหาวิทยาลัยออกใบรับรองการจบการศึกษาล่าช้า ทำให้ไม่สามารถไปขอหลักฐานที่คุรุสภาออกให้สำหรับปฏิบัติหน้าที่สอน เพื่อใช้สมัครสอบได้ทัน ใบรับรองแพทย์มีปัญหา บางคนไม่ยอมให้ตรวจปัสสาวะซึ่งเมื่อมาถึงเขตฯ ก็ต้องให้ไปตรวจเพื่อขอรับใบรับรองแพทย์ใหม่ ทำให้การสมัครเกิดความล่าช้า หรือบางรายก็ไม่ยอมตรวจเลย
2. ปัญหาจากระบบการรับสมัคร ซึ่งกำหนด คำว่ากลุ่มวิชาเอก หรือทาง หรือสาขาวิชาเอก ไว้ ทำให้บางเขตพื้นที่ฯ ที่เปิดรับสมัครมีการตีความที่แตกต่างกัน เช่น กลุ่มวิชาคอมพิวเตอร์ บางเขตพื้นที่ฯ ตีความว่า ต้องจบสาขาวิชาเอกคอมพิวเตอร์โดยตรง ขณะที่บางมหาวิทยาลัยสอนคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ทำให้ขาดคุณสมบัติในการสมัคร เป็นต้น ขณะที่บางสาขาวิชาเอก ได้รับการรับรองจาก สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ล่าช้า ทำให้สมัครเกือบไม่ทันวันสุดท้าย
“กรณีนี้มีผู้สมัครร้องเรียนมาที่ตนจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นแก้ไขปัญหาโดย ประสานเขตพื้นที่ฯที่มีปัญหาให้ปลดล็อก สาขาวิชาเอก หรือกลุ่มวิชาเอก หรือบางเขตพื้นที่ฯ แนะนำให้ไปสมัครในเขตพื้นที่ฯที่เปิดรับสาขาดังกล่าวแทน ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว อาจจะกระทบกับการรับสมัครสอบครั้งนี้บ้าง เพราะเป็นการทำหน้าที่รับสมัครและจัดสอบแข่งขันครูผู้ช่วยครั้งแรก ของ คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่ฯ หลังโอนภารกิจงานบริหารบุคคล คืนจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ทำให้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อน เชื่อว่า การจัดสอบครั้งต่อไป จะไม่มีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอีก และปัญหาที่
3. ผู้สมัครรอดูว่าเขตพื้นที่ฯไหน มีผู้สมัครน้อย และตัดสินใจไปสมัครจนนาทีสุดท้าย ทำให้บางรายไม่สามารถสมัครสอบได้ทัน” นายสุรินทร์ กล่าว
นายสุรินทนร์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สพฐ. จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป และ ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ภายในวันที่ 23 มิถุนายน สอบข้อเขียน ภาค ก วันที่ 24 มิถุนายน ภาค ข วันที่ 25 มิถุนายน ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก และ ข ภายในวันที่ 3 กรกฎาคม สอบภาค ค ประเมินจากการสัมภาษณ์ แฟ้มสะสมงาน และการนำเสนอที่แสดงถึงทักษะและศักยภาพด้านการเรียนการสอน ตามวันและเวลาที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ หรือ อ.ก.ค.ศ.สศศ.กำหนด ทั้งนี้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม การจัดสอบครั้งนี้มีการวางมาตรการป้องกันการทุจริตอย่างเข้มข้น โดยห้ามมิให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รองผู้อำนวยการสพท. ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัด เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำการใดๆ ที่มีเจตนาเป็นการกวดวิชา จัดทำเอกสาร จำหน่าย แจก หรือกระบวนการอื่นใดที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เข้าสอบโดยเด็ดขาด สอดส่อง กำกับดูแล ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัด และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เกี่ยวกับการป้องกันการทุจริต รวมทั้งป้องกันมิให้มีการแสวงหาประโยชน์จากการสอบ ขณะเดียวกัน ยังมีการกำหนดบุคคลในทางลับ เพื่อตรวจสอบติดตาม บุคคลที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต และมิให้แต่งตั้งเป็นกรรมการที่เกี่ยวกับการสอบ
ด้านนายนิยม ไผ่โสภา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต 1 (สพม.กท 1) กล่าวว่า ในส่วนของ สพม.กท 1 ไม่มีปัญหาการรับสมัครสอบครูผู้ช่วย เนื่องจากได้แก้ไขประกาศมาใช้คำว่ากลุ่มวิชาเอก ซึ่งเป็นการเปิดกว้าง เพราะแต่ละสถาบันการศึกษาจะเรียกชื่อวุฒิไม่เหมือนกัน ถ้าเรียกชื่อวุฒิอย่างอื่นไม่ตรงตามที่ประกาศของเขตนั้น ๆ เจ้าหน้าที่ก็จะไม่รับสมัคร แต่การประกาศเป็นกลุ่มวิชาจะเปิดโอกาสให้ชื่อวิชาที่ใกล้เคียงสมัครได้โดยให้นับหน่วยกิต
แห่สมัครครูผู้ช่วยกว่า 1.7 แสนราย รับ 7.8 พันอัตรา ‘ปฐมวัย’ แชมป์คนสมัครเยอะสุด ‘สพฐ.’ กุมขมับ สารพัดปัญหาร้องเรียน เขตฯ ตีความวิชาเอกสับสน ทำขาดคุณสมบัติ – ผู้สมัครไม่ยอมตรวจปัสสาวะ
ที่มา ; มติชนออนไลน์ วันที่ 7 มิถุนายน 2566