ค้นหา

ครม.เห็นชอบจ้างภารโรงและงบฯอาหารกลางวันนักเรียนขยายโอกาสฯ

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอของบอาหารกลางวัน จำนวน 2,955 ล้านบาท ในกลุ่มโรงเรียนขยายโอกาส จำนวน 7,344 แห่ง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กรุงเทพมหานคร และกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) รวม 575,983 คน ซึ่งจะเป็นงบประมาณในปี 2568 สำหรับจำนวนนักเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 

  • จำนวนนักเรียน 1-40 คน จำนวน 36 บาท/คน/วัน
  • นักเรียนจำนวน 41-100 คน จำนวน 27 บาท/คน/วัน
  • จำนวนนักเรียน 101-120 คน จำนวน 24/บาท/คน/วัน
  • จำนวนนักเรียน 120 คนขึ้นไป จำนวน 22/บาท/คน/วัน 

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการจ้างนักการภารโรงให้ทุกโรงเรียนที่ขาด จำนวน 14,210 อัตรา เป็นเงิน 639,450,000 บาท หรืออัตราละ 9,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะอยู่ในปีงบประมาณ 2568 เช่นเดียวกัน 

แต่ในส่วนของการดำเนินการเรื่องงบนักการภารโรงในปี 2567 นั้น ขณะนี้ ศธ. ได้จัดทำคำของบประมาณไปที่สภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ ดังนั้นเราจึงจัดทำเป็นคำของบเพิ่มเติมมาที่นายกรัฐมนตรี และเท่าที่ทราบนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในส่วนของงบจ้างนักการภารโรงของปี 2567 แล้ว โดยขั้นตอนต่อจากนี้ไปจะนำการจัดทำคำของบเพิ่มเติมไปที่สำนักงบประมาณและส่งผ่านมายัง ศธ. หลังจากนั้นจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. อนุมัติอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สำหรับงบจ้างนักการภารโรงจะเริ่มจ้างได้ในวันที่ 1 พ.ค. 2567 ถึง 30 ก.ย. 2567 และในงบประมาณปี 2568 ยังจะมีการดำเนินการจ้างอีกจำนวน 25,370 อัตรา เป็นเงินจำนวน 2,739,960,000 บาท ซึ่งจะสามารถดำเนินการจ้างได้ในวันที่ 1 ต.ค. 2567 ถึง 30 ก.ย. 2568 จากนั้นก็จะดำเนินการเตรียมการเพื่อของบประมาณในปีต่อๆ ไปอีกด้วย 

ด้านนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า สำหรับการที่ประชุมครม.ได้อนุมัติงบประมาณทั้งสองรายการตามที่ศธ.เสนอนั้นได้ใช้หลัการติดตามควบคุมคุณภาพ โดยสามารถสังเกตได้เลยว่าระบบที่สพฐ.วางไว้หลังจากมีประเด็นร้องเรียนเรื่องการจัดทำเมนูอาหารกลางวันไม่โปร่งใส่ขาดหลักโภชนาการนั้น ขณะนี้ไม่มีประเด็นการร้องเรียนมาอีก เพราะกระบวนการที่เราประสานงานในพื้นที่และทำความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบการจัดทำอาหารกลางวันร่วมกับโรงเรียน แนวทางปฎิบัติเมนูอาหารกลางวันในการแนะนำการจัดทำเมนูอาหารให้โรงเรียนเข้าใจมากขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่าคุณภาพอาหารกลางวันจะดีขึ้น และการจ้างนักการภารโรงก็จะช่วยลดภาระของครูด้วย

เกี่ยวข้องกัน

ครม. อนุมัติงบ’68 วงเงินกว่า 2.7 พันล.จ้างภารโรงเพิ่ม หวังให้ครูโฟกัสการสอน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณวงเงิน 2,739.96 ล้านบาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ เพื่อจ้างภารโรงเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณปี 2568 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระครู ซึ่งไม่ใช่ทำหน้าที่เฉพาะการอยู่เวรยาม แต่ต้องทำหน้าที่ดูแลโรงเรียนในส่วนอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ครูจะได้โฟกัสการทำหน้าที่การเรียนการสอนเท่านั้น

ทั้งนี้ การเสนอของบประมาณดังกล่าวของกระทรวงศึกษาธิการ สืบเนื่องจากกรณีครูสาวถูกบุกทำร้ายในโรงเรียนขณะอยู่เวร ทำให้เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ครม.มีมติยกเลิกครูเวร ซึ่งการประชุม ครม.ในวันนี้ (26 มี.ค.) กระทรวงศึกษาธิการได้ขออนุมัติงบประมาณในการจ้างภารโรง เป็นเวลา 3 ปี คือ ปี 2568-2570 แต่ ครม.อนุมัติเฉพาะปี 2568 ก่อน ส่วนปี 2569 และ 2570 ครม.มอบหมายให้กระทรวงศึกษาไปหาวิธีการทางเทคโนโลยีทดแทนเพื่อลดการจ้างภารโรงและเพื่อประหยัดงบประมาณ 

ที่มา ; มติชนออนไลน์ 26 มีนาคม 2567

เกี่ยวข้องกัน

ครม.ไฟเขียวงบ 618 ล้าน จ้างภารโรง 5 เดือนแรก1.3 หมื่นอัตรา มีผล 1 พ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 9 เมษายน นายสุรศักดิ์  พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว  ว่า  

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่ ศธ. เสนอ งบจัดจ้างนักการภารโรงครบทุกโรงเรียน ปีงบประมาณ 2567  จำนวน 13,751 อัตรา  ใช้งบประมาณ 618,795,000 บาท  ในระยะเวลา 5 เดือน คือ ตั้งแต่แต่เดือนพฤษภาคม -เดือนกันยายน 2567 ส่วนการจ้างนักการภารโรงในปี 2568 ครม. ได้อนุมัติงบตั้งจ้างแล้ว กว่า 25,370 อัตรา ใช้งบประมาณ รวม 2,739,960,000 บาท โดย โรงเรียนที่ขาดแคลน เตรียมจ้างภารโรงได้วันที่ 1 พฤษภาคมนี้  

จากนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะจัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป  ทั้งนี้ การอนุมัติงบดังกล่าว เพื่อลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นผลดีต่อกิจกรรมการเรียนการสอน และคุณภาพชีวิตด้านความสะอาด และความปลอดภัยของนักเรียน 

ชน