ค้นหา

กมว.ลงโทษครู-ผู้บริหาร ผิดจรรยาบรรณร้ายแรง 20 ราย

19 เมษายน 2567 รศ.ดร.ศิริเดช สุชีวะ ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ กมว.ครั้งที่ 3/2567 ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับการพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา กับผู้ที่กระทำความผิดร้ายแรงจำนวน 20 ราย ซึ่งมีทั้งครูและผู้บริหาร โดยผลการพิจารณา ได้แก่  ตักเตือน 7 ราย พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ  2 ราย เพิกถอนฯ 3 ราย และให้ทบทวนมติโดยแจ้งไปยังผู้กระทำผิดเพื่อเปิดโอกาสให้ชี้แจงโต้แย้งได้ อีกจำนวน 8 ราย  โดยกรณีการเพิกถอนใบอนุญาตส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการค้าประเวณี การกระทำอนาจารนักเรียน กรณีฉ้อโกง และคดียาเสพติด

ช่วงเวลา 2 ปีนี้ คณะกรรมการ กมว.สามารถสะสางคดีที่ตกค้างมาตั้งแต่ ปี 2553 และคดีที่เกิดขึ้นใหม่รวมกว่า 1,000 คดี ให้เหลือเพียง 10 กว่าคดี ซึ่งบางคดีผลสอบทางคดีอาญายังไม่เสร็จสิ้น แต่ทางคุรุสภาได้สั่งพักใช้ไปอนุญาตไว้ก่อน ซึ่งในระหว่างพักใช้ใบประกอบวิชาชีพจะไม่สามารถประกอบวิชาชีพทางการศึกษาได้ ทั้งนี้ ถือว่าคณะกรรมการ กมว.สามารถเคลียร์คดีได้เกือบหมดตามที่ตั้งเป้าไว้แล้ว”ประธาน กมว. กล่าว

ด้าน ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องการมอบรางวัลสำหรับครูที่ประพฤติ ปฏิบัติดี โดยคณะกรรมการพิจารณารางวัลได้เสนอแนะต่อที่ประชุมว่า ควรเพิ่มรางวัลให้แก่ระดับหน่วยงานที่ดูแลครูไม่ให้มีพฤติกรรมกระทำผิดจรรยาบรรณ  เช่น สำนนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สถานศึกษา โดยให้เหตุผลว่า ที่ผ่านมาเป็นการมอบรางวัลเฉพาะบุคคล จึงอยากให้รางวัลกับหน่วยงานที่ดูแลครูด้วย เพราะการดูแลครูอาจจะต้องมีการป้องปราม ซึ่งหน่วยงานที่ใกล้ครูที่สุด ก็คือ เขตพื้นที่การศึกษา และ สถานศึกษา  ถ้าเขตพื้นที่ฯมีระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี มีระบบบริหารจัดการที่ดี เมื่อมีครูที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเกิดขึ้นแล้วมีการป้องกันและมีการป้องปรามหรือมีระบบเฝ้าระวังที่ดีก็จะช่วยไม่ให้เกิดการทำผิดที่ร้ายแรงขึ้นได้ 

ที่มา ; แนวหน้า วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

เกี่ยวข้องกัน

คุรุสภา จ่อพักตั๋วผอ.ร.ร. หื่น ซื้อบริการน.ร.12 พบผิดจริงเพิกถอนทันที 

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า กรณีผู้อำนวยการโรงเรียนและครูในพื้นที่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมตัวในข้อหาซื้อบริการทางเพศเด็กนักเรียนหญิงอายุ 12 ปี พร้อมทั้งถูกตั้งข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี, พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร, ชักจูง ยุยง ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร, แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็กนั้น

สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ได้ติดตามและตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ปรากฏข้อมูลว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกจับกุมนั้น มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูและผู้บริหารสถานศึกษา และปฏิบัติหน้าที่อยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ส่วนครูที่ถูกจับกุมนั้นเกษียณอายุราชการไปแล้วและไม่พบข้อมูลการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู 

ผศ.ดร.อมลวรรณกล่าวต่อว่า กรณีผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าว สำนักงานเลขาธิการคุรุภา เตรียมเสนอคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ พิจารณาพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทุกประเภทไว้ก่อน จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ เนื่องจากมีองค์ประกอบที่สามารถพักใช้ใบอนุญาตไว้ก่อนได้ หากเป็นความผิดเรื่องที่เกี่ยวกับทางเพศ ยาเสพติด หรือถูกฟ้องคดีอาญาในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์หรือทุจริตต่อหน้าที่ และหากผลตัดสินว่ามีความผิดจริง จะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทุกประเภททันที ส่วนกรณีของครูที่เกษียณไปแล้ว สำนักงานฯก็ได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิดไว้ในระบบฐานข้อมูลทะเบียนและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เพื่อประกอบการพิจารณาลักษณะต้องห้ามของผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาทุกประเภทเรียบร้อยแล้ว 

การกระทำของผู้อำนวยการโรงเรียนและครู ที่ประพฤติผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กนักเรียนนั้น ไม่สมควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง จึงขอย้ำเตือนให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครู รวมถึงบุคลากรทางการศึกษาทุกคน ต้องควบคุม ดูแล มิให้ใครก็ตามมีพฤติการณ์ดังกล่าวโดยเด็ดขาด เพราะเป็นความผิดจรรยาบรรณวิชาชีพทางการศึกษา ด้านจรรยาบรรณต่อผู้รับบริการอย่างชัดเจน ซึ่งครูและผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาทุกคน จะต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริมให้กำลังใจแก่ศิษย์ และผู้รับบริการตามบทบาทหน้าที่โดยเสมอหน้า และต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์และผู้รับบริการ” เลขาธิการคุรุสภากล่าว 

ที่มา ; มติชนออนไลน์ วันที่ 20 พฤษภาคม 2567