นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ อดีตประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เปิดเผยว่า ปัญหาขาดแคลนครูมีมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะสาขาวิชาเฉพาะ เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ดนตรี รวมถึงยังมีปัญหาขาดแคลนครูในพื้นที่ชนบท เนื่องจากครูผู้ช่วยที่บรรจุครบ 2 จะขอย้ายไปโรงเรียนอื่นที่ดีกว่า ดังนั้นควรเปิดโอกาสให้ครูอัตราจ้างที่สอนอยู่ในโรงเรียนห่างไกล หรือโรงเรียนขนาดเล็ก ได้มีโอกาสสอบคัดเลือกและบรรจุแต่งตั้งโดยวิธีพิเศษ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินและพิจารณา เพื่อให้ได้ครูที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และสามารถปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนเหล่านี้ได้ต่อเนื่อง ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีการสอบ ว16/2557 หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ เปิดช่องกลุ่มอัตราจ้างอยู่แล้ว แต่การบรรจุพิเศษที่ได้เสนอแนะไปจะเป็นการเปิดโอกาสให้เฉพาะกลุ่มครูอัตราจ้างที่ทำการสอนในโรงเรียนห่างไกลนั้นๆมาเป็นเวลานานโดยไม่มีครูอัตราจ้างจากโรงเรียนอื่นๆเข้ามาร่วมแข่งขัน สาเหตุที่เสนอให้มีการคัดเลือกครูด้วยวิธีพิเศษ เนื่องจากที่ผ่านมาครูกลุ่มนี้ มีเวลาเตรียมตัวสอบบรรจุน้อยกว่า บัณฑิตที่จบใหม่ เพราะต้องปฏิบัติงานสอน ทำให้มีเวลาเตรียมตัวน้อย
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกับยังต้องสร้างแรงจูงใจให้กับครูโดยเพิ่มเงินพิเศษให้ครูที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลซึ่งในปัจจุบันครูในแต่ละพื้นที่ยังได้รับอัตราเงินเดือนที่เท่ากันแต่ครูในพื้นที่ชนบทกลับต้องเสียรายได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงกว่าและการเดินทางที่ลำบากกว่าพื้นที่ในเมือง ซึ่งเงินพิเศษในส่วนนี้จะเป็นการพิจารณาจากพื้นที่ที่ครูไปสอนว่าควรได้เงินพิเศษส่วนนี้เพิ่มเติมเท่าใดเป็นอัตราที่ไม่ตายตัวเหมือนเบี้ยเสี่ยงภัยที่มีอัตราเท่ากันอยู่ที่ 2,500 บาท และหากครูกลุ่มนี้ต้องการย้ายกลับเข้าไปสอนในเมืองให้รับเงินเดือนตามอัตราปกติไม่มีค่าจ้างพิเศษเพิ่มเติม และหากย้ายออกจะมีรายได้ที่น้อยลง เป็นการสร้างแรงจูงใจให้ครูอยู่ต่อในพื้นที่ขาดแคลนครู รวมถึงใช้เป็นแรงจูงใจ เพิ่มครูในสาขาขาดแคลนด้วย
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาครูเกินในบางสาขาวิชานั้น ในช่วงที่ตนเป็นประธานกมว. ได้เน้นย้ำไปยังมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ว่าจะต้องไม่ผลิตครูในสาขาที่ล้นตลาด โดยขอให้เน้นผลิตในสาขาที่ขาดแคลนและตรงตามความต้องการของผู้ใช้ ดังนั้นอาจารย์ที่สอนในสาขาเดิม อาจจะต้องไปเรียนเพิ่มเติม และเปิดสอนสาขาที่ขาดแคลนแทน แต่ส่วนใหญ่ยังยึดติดกับการสอนรูปแบบเดิม ซึ่งเป็นความรู้ที่ล้าสมัยไปแล้ว
“ส่วนตัวมั่นใจว่า ผู้ที่สามารถสอบขึ้นบัญชีครูผู้ช่วยได้ทุกคน จะสามารถเป็นครูที่มีคุณภาพได้ เพราะเป็นการสอบที่มีอัตราการแข่งขันค่อนข้างสูง เช่น บางพื้นที่ต้องการครูจำนวน 10 คนแต่มีคนมาสมัครถึง 10,000 คน แต่ปัญหาสำคัญคือภาระอื่น ๆ ที่ทำให้ครูไม่มีเวลาทุ่มเทกับงานสอน จนทำให้คุณภาพการจัดการศึกษาไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่งผลทำให้ครูเหล่านี้ กลายเป็นครูที่ไม่มีคุณภาพในอนาคต”นายเอกชัย กล่าว
นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ อดีตประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) ชงปรับเกณฑ์พิเศษเฟ้น ‘ครูผู้ช่วย’ เปิดช่องอัตราจ้างได้บรรจุ ร.ร.ที่สอน เพิ่มเงินท็อปอัพจูงใจ
ที่มา ; มติชนออนไลน์ วันที่ 20 สิงหาคม 2567
เกี่ยวข้องกัน
ชงปรับเงื่อนไขสอบครูผู้ช่วย’ว16′ ให้สิทธิอัตราจ้าง เปิดช่องร.ร.เฟ้นเอง-บรรจุ4ปี ห้ามย้าย
นายณรินทร์ ชำนาญดู นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยว่า กรณีนายเอกชัย กี่สุขพันธ์ อดีตประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) มีข้อเสนอแก้ไขปัญหาครูในพื้นที่ห่างไกล โดยการเปิดช่องทางพิเศษให้มีการบรรจุครูอัตราจ้างในโรงเรียนที่สอน โดยที่ไม่มีโรงเรียนอื่นเข้ามาร่วมแข่งขัน ส่วนตัวเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว แต่โรงเรียนบางแห่งอาจไม่สามารถดำเนินการตามแนวทางนี้ได้ เพราะไม่มีแม้กระทั่งครูอัตราจ้าง
ดังนั้น จึงอยากจะเสนอให้ปรับหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษการสอบ หรือ ว16/2557 โดยกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า ครูอัตราจ้างที่บรรจุด้วยวิธีการนี้จะต้องทำการสอนในโรงเรียนที่บรรจุแต่งตั้งเป็นเวลา 4 ปี จึงจะสามารถย้ายออกได้ หากใช้วิธีนี้แล้วยังมีปัญหาขาดแคลนครูก็ให้ใช้วิธีบรรจุพิเศษตามข้อเสนอของนายเอกชัยร่วมเข้าไปด้วย
นายณรินทร์กล่าวต่อว่า กลุ่มครูอัตราจ้างที่ทำการสอนในโรงเรียนมาเกิน 3 ปี จะรู้ระบบและวิธีการทำงานในโรงเรียนเป็นอย่างดี จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าในอนาคตจะมีการยื่นข้อเสนอให้กับกลุ่มครูเหล่านี้ที่มีอยู่กว่า 3 หมื่นคนทั่วประเทศ เข้ารับตำแหน่งครูผู้ช่วยในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลได้ทันที เพื่อทดแทนอัตราที่ขาดในพื้นที่ห่างไกล แทนการสอบบรรจุแบบปกติที่จะต้องเตรียมตัวสอบในวิชาที่ไม่ได้นำไปสอน เชื่อว่ามีครูอัตราจ้างหลายคนที่พร้อมรับข้อเสนอนี้ และสามารถสอนได้อย่างมีคุณภาพและเป็นการพัฒนาการศึกษาของไทยในพื้นที่ห่างไกลอีกด้วย
“ส่วนการทุจริตเล่นพรรคเล่นพวกนั้น หากเกิดขึ้นจริงก็ต้องมีการตรวจสอบและลงโทษตามกฎหมายให้เห็นเป็นตัวอย่าง ทั้งนี้ อยากให้มองไปที่ปัญหาเรื่องการขาดแคลนครูในพื้นที่ห่างไกลเป็นหลักและลองทำวิธีนี้อย่างจริงจัง เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาครูขาดแคลนในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพแน่นอน และถ้าเป็นไปได้ควรปล่อยให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ที่ขาดแคลนครูเปิดสอบได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องรอสอบพร้อมกันทั่วประเทศเพราะจะเกิดความล่าช้า ผลิตครูออกมาทดแทนได้ไม่ทันท่วงที
เปรียบเสมือนกับโรงเรียนเอกชนที่เมื่อขาดอัตราครูจะมีการเปิดรับสมัครเข้ามาใหม่ทันที แต่ต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้มีความโปร่งใสและมั่นใจว่าจะได้ครูที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังต้องลดเงื่อนไขการประเมินวิทยฐานะสำหรับครูที่ประสงค์จะอยู่ในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ครูอยากอยู่ในพื้นที่ และชักชวนให้ครูบรรจุใหม่ หรือครูที่อยู่ในเมืองอยากจะไปสอนในโรงเรียนห่างไกลด้วยเช่นกัน” นายณรินทร์กล่าว
ที่มา ; มติชนออนไลน์ วันที่ 26 สิงหาคม 2567