เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีข้อห่วงใยและได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)ขอนแก่น เขต 2 ไม่จ่ายเงินค่าปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน นั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พร้อมด้วยทีมงานศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย และสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สพฐ. ได้ร่วมกันกำกับติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยสั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และรายงานผลให้ สพฐ. ทราบแล้ว
นายธีร์ กล่าวต่อว่า จากการติดตามความคืบหน้าล่าสุด พบว่า หลังจากทราบเหตุที่เกิดขึ้น สพป.ขอนแก่น เขต 2 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยทันที และได้ดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ตั้งแต่วันที่ 10-17 ตุลาคม 2567 โดยวิธีการตรวจสอบเอกสารด้านการเงินที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมทั้งสอบปากคำ พยาน และผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้อำนวยการที่ถูกกล่าวหา คณะครูทั้งโรงเรียน ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน ตัวแทนนักเรียน ที่เกี่ยวข้องกับเงินงบประมาณที่เป็นประเด็นถูกกล่าวหา ซึ่งได้ดำเนินการสอบปากคำพยานมากกว่า 20 คน
ทั้งนี้ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ได้สรุปรายงานต่อ ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 2 สรุปความได้ว่า ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 2/2563 ถึง ภาคเรียนที่ 2/2566 โรงเรียนไม่ได้จ่ายเงินค่าปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน ให้แก่นักเรียนที่ได้รับจัดสรรจริง โดยอ้างว่านำเงินงบประมาณดังกล่าวไปใช้จ่ายเป็นค่านำนักเรียนไปทัศนศึกษา และค่าจัดซื้อเสื้อผ้า สิ่งของต่างๆ แต่ผู้ปกครองนักเรียนให้การตรงกันว่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่าบุตรหลานของตนได้รับจัดสรรเงินทุนดังกล่าว และไม่เคยทราบว่าทางโรงเรียนนำเงินทุนนั้นไปใช้จ่ายเป็นค่านำนักเรียนไปทัศนศึกษา ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการสืบสวนฯ จึงได้เสนอความเห็นว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนปฏิบัติหน้าที่ราชการไม่เป็นไปตามรูปแบบ ขั้นตอน วิธีการ ที่กฎหมายกำหนด มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทำให้นักเรียนที่ได้รับจัดสรรเงินทุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน ได้รับความเสียหาย จึงเสนอให้ดำเนินการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงต่อไป
ดังนั้น สพป.ขอนแก่น เขต 2 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 โดยมี รอง ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 2 เป็นประธานฯ ผอ.กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์ และผอ.กลุ่มกฎหมายและคดี เป็นกรรมการและเลขานุการ พร้อมกันนี้ได้ออกคำสั่งพักราชการ ผอ.โรงเรียนคนดังกล่าว และได้แต่งตั้ง ผอ.โรงเรียนบ้านหนองขามสมบูรณ์ สังกัด สพป.ขอนแก่น เขต 2 มาปฏิบัติหน้าที่รักษาการในตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินงานของโรงเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ และจะรายงานผลให้ สพฐ. ทราบต่อไป
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ สพฐ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยกำชับเขตพื้นที่ฯ ให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม และเร่งรัดผลการสืบสวนให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งกำชับโรงเรียนทุกแห่งให้ดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรงไปตรงมา ตรวจสอบได้ ทั้งนี้ หากประชาชนหรือผู้ปกครองพบเห็นพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมในลักษณะเดียวกันนี้ สามารถแจ้งเหตุมายัง สายด่วน ศธ. 1579 ได้ตลอดเวลา หรือแจ้ง ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. โทร. 0 2123 8789 เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือต่อไป” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว
สพฐ. เร่งสอบ ผอ.โรงเรียน ไม่จ่ายเงินนักเรียนยากจน ย้ำต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้