การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567
https://drive.google.com/file/d/1PnUgUsmQtV51-ynd66_EgMO2escb6W-Z/view?usp=sharing
ที่มา ; สพร.สพฐ.
เกี่ยวข้องกัน
ก.ค.ศ. เดินหน้าพัฒนาระบบการคัดเลือกและพัฒนาศึกษานิเทศก์ก่อนแต่งตั้ง
เมื่อวันที่ 19 นายพิเชฐร์ วันทอง รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เป็นประธานการประชุมสัมมนาจัดทำ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ณ โรงแรมเบลล่า บี บางกรวย จังหวัดนนทบุรี
นายพิเชฐร์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจากที่ ก.ค.ศ. ได้ประกาศมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาฉบับใหม่ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว 19 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ซึ่งกำหนดให้ผู้ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งสายงานนิเทศการศึกษาต้องมีใบรับรองการผ่านการพัฒนาสมรรถนะศึกษานิเทศก์และต้องได้รับการพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ประกอบกับมติ ก.ค.ศ. ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 ได้พิจารณาแนวทางการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูฯ ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ได้ศึกษานิเทศก์ที่มีความรู้ความสามารถและศักยภาพในการแนะนำ ชี้แนะแนวทางให้กับครูและผู้บริหารสถานศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ โดยที่ประชุมร่วมกันพิจารณาใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
1.การกำหนดสมรรถนะและประสบการณ์ของตำแหน่งศึกษานิเทศก์
2. (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ
3. (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์
ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนี้มีความเชื่อมโยงกันในการพัฒนาการบริหารงานบุคคลฯ สำหรับตำแหน่งศึกษานิเทศก์
“การพัฒนาศึกษานิเทศก์ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะการพัฒนาระบบคัดกรองศึกษานิเทศก์แบบใหม่ที่กำหนดให้ผู้ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งต้องผ่านการพัฒนาสมรรถนะผ่านระบบ e-Learning ก่อนเข้ารับการคัดเลือก และเมื่อผ่านการคัดเลือกแล้วจะต้องเข้ารับการพัฒนาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 วัน เพื่อให้ได้บุคลากรที่มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่อย่างแท้จริง” นายพิเชฐร์กล่าว
รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวต่อว่า สำหรับการยกระดับมาตรฐานวิชาชีพกำหนดให้ผู้ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งต้องมีใบรับรองการผ่านการพัฒนาสมรรถนะศึกษานิเทศก์ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของศึกษานิเทศก์และเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษา นอกจากนี้ ยังมีกรอบแนวคิดในการพัฒนาเส้นทางความก้าวหน้าในวิชาชีพ โดยผู้ที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ตามมาตรา 50 สามารถยื่นขอมีวิทยฐานะชำนาญการผ่านระบบ DPA โดยใช้ PA ร่วมกับ Project-based Development ในการประเมิน เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจและเส้นทางความก้าวหน้าที่ชัดเจน
“เป้าหมายสูงสุดของการพัฒนาศึกษานิเทศก์คือการยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยมุ่งให้ศึกษานิเทศก์มีความรู้ความสามารถในการแนะนำและชี้แนะแนวทางให้กับครูและผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนและผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาการศึกษาของประเทศ ในภาพรวม” รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าว
ที่มา ; มติชนออนไลน์ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567