ค้นหา

เปิดร่าง พระราชบัญญัติการศึกษาเท่าเทียม

หลักการ

1. ให้สถานศึกษาและกระทรวงสามารถจัดการการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้ ตามปรัชญาการศึกษาทุกที่และทุกเวลา  

2.ให้สถาบันการศึกษาเท่าเทียมรับผิดชอบในการจัดตั้งและดูแลธนาคารหน่วยกิต การสอบ เทียบ แพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ การให้ปริญญาบัตรประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร การเทียบโอนหน่วยกิตและผลการศึกษา การรับรองและให้วุฒิบัตรทักษะ และแฟ้มสะสมผลการเรียนรู้  

3.ให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาเท่าเทียมขึ้นมีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นองค์การมหาชน อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และให้ มีอำนาจในการจัดการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารหน่วยกิต การสอบเทียบ แพลตฟอร์ม การเรียนออนไลน์ การเทียบโอนหน่วยกิตและผลการศึกษา การให้ปริญญาบัตร ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร การรับรองและให้วุฒิบัตรทักษะ และแฟ้มสะสมผลการเรียนรู้ แทนกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม 

 

เหตุผล  

ในปัจจุบันการจัดการการศึกษาทั้งการศึกษาขั้นพื้นฐานและการศึกษาระดับอุดมศึกษายังมีความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกันระหว่างการเรียนการสอนในเขตชนบทและเขตเมือง โดยผู้เรียนในเขตชนบทจะขาดแคลนทั้งครูที่มีคุณภาพ สถานที่และอุปกรณ์การเรียนการสอน ทำให้ผู้เรียนในเขตชนบทไม่สามารถแข่งขันกับผู้เรียนในเขตเมืองได้ ในขณะเดียวกันก็ทำให้ประเทศไทยขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพเพราะเหตุแห่งความไม่เท่าเทียมกัน

ในเรื่องดังกล่าว การทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่และทุกเวลาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญซึ่งจะต้องดำเนินการผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งในระดับสถานศึกษาและกระทรวงที่รับผิดชอบ อันจะทำให้ผู้เรียนในทุกระดับพัฒนาตนเองไปเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศ อันจะนำไปสู่ความก้าวหน้า ของประเทศในอนาคต จึงจำเป็นต้องจัดตั้งให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และกระทรวงศึกษาธิการ สามารถจัดตั้งธนาคารหน่วยกิต การสอบเทียบ แพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ การให้ปริญญาบัตร ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร การเทียบโอนหน่วยกิตและผลการศึกษา การรับรองและให้วุฒิบัตรทักษะ และแฟ้มสะสมผลการเรียนรู้ และเมื่อกระทรวงได้ดำเนินการไประยะหนึ่งแล้วควร ให้มีการจัดตั้งสถาบันการศึกษาเท่าเทียมเป็นองค์การมหาชนขึ้นเพื่อให้สถาบันนี้รับผิดชอบงานต่างๆ ตามที่ กระทรวงได้ดำเนินการในขั้นต้น 

โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้  

มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการศึกษาเท่าเทียมกัน พ.ศ. …”  

มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป  

มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้ 

 

“การศึกษา” หมายความว่า กระบวนการการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคล และสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลง ความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคมการเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต  

“การจัดการการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ” หมายความว่า การจัดการการศึกษาที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดผลลัพธ์การเรียนรู้ตามเป้าหมายของหลักสูตรและรายวิชา 

“กระทรวง” หมายความว่า กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  

“ธนาคารหน่วยกิต” หมายความว่า ระบบทะเบียนสะสมหน่วยกิตและกลไกการเทียบโอนผล การเรียนที่ได้จากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ หรือการศึกษาตามอัธยาศัยหรือผลลัพธ์การเรียนรู้ ที่ได้จากการศึกษา การฝึกอบรม การรับรองมาตรฐานอาชีพ หรือการสะสมประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากการ ฝึกปฏิบัติ หรือการเรียนรู้จริงในที่ทำงานระหว่างการศึกษา หรือการประกอบอาชีพและสามารถเทียบโอน หน่วยกิตระหว่างสถานศึกษาได้  

“สถานศึกษา” หมายความว่า สถานพัฒนาเด็กประถมวัย โรงเรียน ศูนย์การเรียน วิทยาลัย สถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษา หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือของเอกชนที่มีหน้าที่และอำนาจ หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา  

มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของตน กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้ 

 

หมวด 1 บททั่วไป  

มาตรา 5 การจัดการศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัยไม่ว่าจะเป็นระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือการศึกษาระดับอุดมศึกษาต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง โดยประชาชนจะต้องมีความเสมอภาคในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าประชาชนจะอาศัยในเขตเมืองหรือเขตชนบท  

มาตรา 6 กระทรวงจะต้องส่งเสริมให้มีการจัดการศึกษาตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา โดยต้องจัดให้มีทรัพยากรอย่างเพียงพอเพื่อให้สถานศึกษาสามารถดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้  

หมวด 2 การจัดการศึกษาเพื่อให้เกิดความเสมอภาคในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน  

มาตรา 7 สถานศึกษาสามารถจัดการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือโดยวิธีการอื่นใดนอกสถานศึกษาได้ การจัดการศึกษาตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด  

การจัดการศึกษานอกจากที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในเรื่องระบบการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ  

มาตรา 8 ให้กระทรวงมีอำนาจดังต่อไปนี้ 

(1) จัดการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งการศึกษาขั้นพื้นฐานและการศึกษาอุดมศึกษา 

(2) จัดตั้งและบริหารธนาคารหน่วยกิต

(3) จัดตั้งและบริหารระบบการสอบเทียบ 

(4) จัดทำและบริหารแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ เพื่อให้ผู้เรียนมีความเท่าเทียมในการศึกษา

(5) ให้ปริญญาบัตร ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรแก่บุคคลผู้จบการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 

(6) ดูแลและบริหารการเทียบโอนหน่วยกิตและผลการศึกษาทั้งในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษา 

(7) จัดให้มีการรับรองและให้วุฒิบัตรทักษะ 

(8) จัดให้มีแฟ้มสะสมผลการเรียน  

หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตราวรรคแรก ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด การบริหารและการจัดการศึกษานอกจากที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในเรื่องการบริหารและการจัดการศึกษาของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ  

มาตรา 9 กระทรวงอาจจัดการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่แตกต่างจากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือมาตรฐานอุดมศึกษาแล้วแต่กรณีได้ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี  

มาตรา 10 เมื่อกระทรวงดำเนินการตามมาตรา 8 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้กระทรวงการ อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมจัดตั้งสถาบันการศึกษาเท่าเทียม เป็นหน่วยงานของรัฐมีฐานะเป็น นิติบุคคลและเป็นองค์การมหาชน โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา  

ในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันการศึกษาเท่าเทียมตามวรรคแรก อย่างน้อยจะต้องมี ข้อความ ดังต่อไปนี้ 

(1) ชื่อของสถาบัน 

(2) ที่ตั้งของสำนักงานแห่งใหญ่ 

(3) วัตถุประสงค์ และอำนาจกระทำกิจการต่างๆภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์

(4) องค์ประกอบของคณะกรรมการ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่งการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการ รวมทั้งอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ 

(5) คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการ 

(6) คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของเจ้าหน้าที่ 

(7) ทุน รายได้ งบประมาณ และทรัพย์สิน 

(8) การบริหารงานบุคคล สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์อื่น

(9) การกำกับดูแล การตรวจสอบ และการประเมินผลงาน 

(10) ข้อกำหนดอื่นๆ อันจำเป็นเพื่อให้กิจการของสถาบันดำเนินการไปได้โดยเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ 

(11) รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกา 

 

บทเฉพาะกาล 

มาตรา 11 บรรดาข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ เกี่ยวกับการจัดการการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยีเทคโนโลยีสารสนเทศรวมทั้งธนาคารหน่วยกิตที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปจนกว่าจะมีการออกกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ ที่ออกตาม พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ  

การดำเนินการออกกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามเดือนนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้รัฐมนตรีรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ  

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ 

 นายกรัฐมนตรี 

ที่มา ; มติชนออนไลน์ วันที่ 17 ธันวาคม 2567