
น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า องค์การยูเนสโก ประกาศรับรองให้ “น่าน” และ “สงขลา” เข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network – UCCN) ประจำปี พ.ศ. 2568 กระทรวงวัฒนธรรมขอแสดงความยินดีที่เมือง น่าน และ สงขลา ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของโลก ประจำปี พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025)
โดย น่าน ได้รับการประกาศในสาขา หัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (Crafts and Folk Art) และ สงขลา ในสาขา วิทยาการอาหาร (Gastronomy) นับเป็นการตอกย้ำศักยภาพของทุนทางวัฒนธรรมไทยที่มีความโดดเด่นและยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย
น่าน-สงขลา ได้รับการรับรองเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์
รมว.ซาบีดา ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า
รมว.วธ. กล่าวต่อว่า ในปีนี้ ยูเนสโก ได้ประกาศรับรองเมืองใหม่เข้าสู่เครือข่ายทั้งหมด 58 เมือง จาก 41 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุม 8 สาขาความสร้างสรรค์ ได้แก่ หัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน 14 เมือง, วรรณกรรม 10 เมือง, วิทยาการอาหาร 10 เมือง, ดนตรี 9 เมือง, สถาปัตยกรรม 5 เมือง, ออกแบบ 4 เมือง, ภาพยนตร์ 4 เมือง, และ มีเดีย อาร์ต 2 เมือง
การเข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกจะช่วยส่งเสริมให้เมืองน่านและสงขลาได้พัฒนาและต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่นสู่ระดับนานาชาติ ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยใช้ “วัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์” เป็นหัวใจหลักของการพัฒนาเมือง
รมว.วธ. กล่าวตอนท้ายว่า ในโอกาสนี้ กระทรวงวัฒนธรรมของประเทศไทยขอร่วมแสดงความยินดีกับอีก 6 เมืองในประชาคมอาเซียนที่ได้รับการประกาศในปีนี้ด้วย ได้แก่ Dumaguete City สาขาวรรณกรรม, Quezon City สาขาภาพยนตร์ (ฟิลิปปินส์), Ho Chi Minh City สาขาภาพยนตร์ (เวียดนาม) Malang สาขามีเดีย อาร์ต, Ponorogo สาขาหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (อินโดนีเซีย) และ Kuala Lumpur สาขาการออกแบบ (มาเลเซีย) ซึ่งสะท้อนพลังสร้างสรรค์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเวทีโลกอย่างภาคภูมิใจ
องค์การยูเนสโก ประกาศรับรองให้ “น่าน” และ “สงขลา” เข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network – UCCN) ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยน่าน ในสาขา หัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (Crafts and Folk Art) และ สงขลา ในสาขา วิทยาการอาหาร (Gastronomy)
ที่มา ; กรุงเทพธุรกิจ