ค้นหา

ความเป็นอิสระของสถานศึกษาจุดเปลี่ยนการจัดการศึกษา

การศึกษาเป็นกระบวนการที่ทำให้คนมีสมรรถนะรอบด้านที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตในสังคมโลก ซึ่งบริบทและทิศทางการศึกษาของประเทศไทย ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กฎหมาย นโยบาย ยุทธศาสตร์ชาติและแผนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้มีการกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต และการพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อให้คนไทยมีการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล มีทักษะที่จำเป็นของโลกศตวรรษที่ 21 โดยมีการปรับโครงสร้างของหน่วยงานในระบบการศึกษา เพื่อบรรลุเป้าหมายในการปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน และยกระดับคุณภาพของการจัดการศึกษาใน 3 ประเด็น คือ พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา การปรับปรุงโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการ และสถานศึกษามีความเป็นอิสระในการบริหารและการจัดการศึกษา ซึ่งความเป็นอิสระของสถานศึกษามาจากแนวคิดการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School - Based Management: SBM) ที่เน้นการกระจายอำนาจไปยังสถานศึกษาโดยตรง เพื่อให้สถานศึกษารับผิดชอบและตัดสินใจด้วยตนเองอย่างอิสระและคล่องตัว ทั้งด้านวิชาการ การบริหารงานบุคคล การเงินและพัสดุ และการบริหารทั่วไป  

 

แนวทางการดำเนินงานและการปฏิบัติ

ระดับนโยบาย

          กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำหนดนโยบาย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ประกาศนโยบาย และมอบหมายสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในกำกับจัดทำแนวการดำเนินงานที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง 

ระดับพื้นที่

          คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ดำเนินการร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กำหนดแนวทางการดำเนินงานร่วมกันที่จะพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษามีความเป็นอิสระตามโครงการ 

ระดับสถานศึกษา

          ผู้บริหารสถานศึกษาที่ได้รับการคัดสรรเข้าร่วมโครงการ จัดประชุมชี้แจงให้ครูและบุคลากรในสถานศึกษามีความเข้าใจ และมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของสถานศึกษา ส่งเสริมครูให้ได้รับการพัฒนาสมรรถนะด้านหลักสูตร นวัตกรรม การพัฒนา และการใช้ระบบ E – learning และสมรรถนะด้านการสื่อสาร 

 

เงื่อนไขความสำเร็จ

บทบาทระดับนโยบาย

     1. ศธ. โดย รมว.ศธ. ประกาศนโยบายส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษาให้มีความเป็นอิสระ การกระจายอำนาจการบริหาร และการจัดการศึกษาโดยใช้จังหวัดเป็นฐาน และมอบหมาย สกศ. ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในกำกับจัดทำแนวการดำเนินงานที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง 

     2. สพฐ. และ สอศ. ดำเนินโครงการส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษามีความเป็นอิสระ โดยจัดประเภท ขนาด ระดับของสถานศึกษา พร้อมคัดสรรสถานศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาที่มีสมรรถนะการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเข้าร่วมโครงการ จัดประชุมชี้แจงเตรียมความพร้อมให้เกิดความเข้าใจในการปฏิบัติของหน่วยงานระดับจังหวัด 

     3. สกศ. เสนอแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเป็นสถานศึกษาที่มีความเป็นอิสระ โดยมีโครงการนำร่องสถานศึกษาเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

     4. คณะกรรมการเฉพาะกิจ ดำเนินการร่างหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเป็นสถานศึกษาที่มีความเป็นอิสระ โดยยึดหลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน รวมถึงแนวทางการดำเนินงานของหน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานระดับพื้นที่ ในการสนับสนุนทรัพยากรและส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมและมีศักยภาพ

     5. จัดทำแนวทางการจัดสรรงบประมาณไปยังผู้เรียน และการจัดสรรเงินขั้นต้นหรืองบพื้นฐานของสถานศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพ ในลักษณะของเงินอุดหนุนทั่วไปที่ไม่กำหนดวัตถุประสงค์เป็นการเฉพาะ เพื่อให้สถานศึกษาบริหารได้คล่องตัว พร้อมกับการวิเคราะห์กฎหมาย กฎ ระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน เพื่อเสนอให้แก้ไขปรับปรุงต่อไป

     6. คณะกรรมการเฉพาะกิจเสนอหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการเป็นสถานศึกษาที่มีความเป็นอิสระ และแนวทางการจัดสรรงบประมาณไปยังผู้เรียน และการจัดสรรเงินขั้นต้นหรืองบพื้นฐานของสถานศึกษาแต่ละประเภทพร้อมแนวทางการแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องให้คณะกรรมการสภาการศึกษาเห็นชอบ และนำเสนอ รมว.ศธ. พิจารณาเสนอ ครม. อนุมัติต่อไป 

บทบาทระดับพื้นที่

     7. กศจ. ดำเนินการร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา และประธานอาชีวศึกษาจังหวัด กำหนดแนวทางการพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษามีความเป็นอิสระตามโครงการ โดยมีคณะกรรมการบริหารโครงการในระดับจังหวัดรับผิดชอบเป็นการเฉพาะ 

     8. คณะกรรมการบริหารโครงการ ร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาที่ร่วมโครงการ วิเคราะห์ และจัดประเภท ขนาด และระดับสถานศึกษาที่มีลักษณะตรงกับรูปแบบที่กำหนด ประกาศเป็นสถานศึกษาที่มีความเป็นอิสระ (นำร่อง) พร้อมจัดทำขอบข่ายงานบทบาท หน้าที่ อำนาจการตัดสินใจ และความรับผิดชอบของผู้บริหารสถานศึกษา รวมถึงแนวทางการดำเนินงานตามของหน่วยงานระดับจังหวัด โดยมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานเป็นระยะ และรายงานความก้าวหน้าไปยังหน่วยงานระดับนโยบาย 

บทบาทระดับสถานศึกษา

     9. สถานศึกษาที่ร่วมโครงการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อใช้ในการบริหารและจัดการศึกษาที่มีความเป็นอิสระ และจัดทำคำของบประมาณพื้นฐานประเภทอุดหนุนทั่วไปที่ไม่กำหนดวัตถุประสงค์ เพื่อให้หน่วยงานต้นสังกัดอนุมัติ

     10. ผู้บริหารสถานศึกษาที่ได้รับการคัดสรรร่วมโครงการ เข้ารับการพัฒนาสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับการบริหารและจัดการศึกษาที่มีความเป็นอิสระ และจัดประชุมชี้แจงให้ครูและบุคลากรในสถานศึกษามีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในการปฏิบัติงานในการดำเนินงานของสถานศึกษา รวมถึงพัฒนาครูให้มีสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในการจัดกระบวนการเรียนรู้  

 เงื่อนไขความสำเร็จของการส่งเสริมความเป็นอิสระของสถานศึกษาที่กล่าวมา จำเป็นต้องมีการติดตามประเมินผล เพื่อนำมาวิเคราะห์ และขยายผลไปยังสถานศึกษาอื่น ๆ และเสนอปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป 

 

บทความแนวทางการส่งเสริมความเป็นอิสระของสถานศึกษา  

ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์

อดีตรองเลขาธิการสภาการศึกษา

 

ที่มา ; สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา

ความเห็นของผู้ชม