ย้ำอีกครั้ง “ข้าราชการทุกคนมีสิทธิรับบำนาญ” ไม่ว่าจะบรรจุเข้ารับราชการในปีไหน ก็ยังคงมีสิทธิเลือกได้ว่า เมื่อเกษียณอายุราชการ หรือออกจากราชการ จะเลือกรับ “บำเหน็จ” หรือ “บำนาญ” จากกรมบัญชีกลาง โดยการเลือกรับบำนาญมีเงื่อนไขที่ต้องจดจำเพียงแค่ 2 กรณี
สำหรับเงิน กบข. ที่สมาชิกจะได้รับคืน จะขึ้นอยู่กับว่าสมาชิกเลือกรับ “บำเหน็จ” หรือ “บำนาญ”
หากสมาชิกเลือกรับบำเหน็จ จะได้รับเงิน กบข. คืน ในส่วนของเงินสะสมของตนเอง และเงินสมทบจากรัฐ พร้อมเงินส่วนผลตอบแทนที่ กบข. นำไปลงทุนให้
หากสมาชิกเลือกรับบำนาญจากกรมบัญชีกลาง จะได้รับเงิน กบข. คืนทุกก้อน ทั้งเงินสะสมของตนเอง (เงินสะสมตามกฎหมาย 3% และเงินออมเพิ่มตามความสมัครใจ 1-12%) เงินสมทบ 3% และเงินชดเชย 2% จากรัฐ และเงินประเดิม (กรณีที่สมาชิกบรรจุเข้ารับราชการก่อนวันที่ 27 มี.ค. 40 จะมีเงินก้อนนี้) ซึ่งสมาชิกจะได้รับเงินคืนทั้งหมด พร้อมเงินส่วนผลตอบแทนที่ กบข. นำไปลงทุนให้
ที่มา; #กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
ข้าราชการเกษียณแล้วได้อะไรจากราชการบ้าง จำแนกรายละเอียดอย่างนี้
ก.กรณีข้าราชการคนนั้นไม่เป็นสมาชิก กบข.
ก) กรณีรับบำเหน็จ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย x อายุราชการ (รวมอายุราชการทวีคูณ)
กรณีนี้จะได้รับเงินก้อนเดียว สิทธิต่าง ๆ ระงับไป ยกเว้นการขอพระราชทานเพลิงศพ
ข) กรณีรับบำนาญ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย x อายุราชการ (รวมอายุราชการทวีคูณ เกิน 6 เดือนนับเป็น 1 ปี) หาร 50
กรณีนี้จะได้รับเงินทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต และยังมีสิทธิได้รับ
1. ค่ารักษาพยาบาลของตนเอง คู่สมรสและบิดามารดา บุตรที่ไร้ความสามารถ ยกเว้นบุตรปกติที่อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์
2. ค่าเล่าเรียนบุตร เบิกได้ถึงอายุ 25 ปีบริบูรณ์
3. บำเหน็จดำรงชีพ = เงินบำนาญ x 15 เท่า โดยได้รับ ดังนี้เมื่อเกษียณ ได้รับเลย 200,000.บาท
เมื่ออายุครบ 65 ปีขอรับได้อีก (รวมกับที่เคยได้รับ) ไม่เกิน 400,000.บาท และครั้งที่ 3 อายุครบ 70 ปี (รวมกับที่เคยได้รับ) ไม่เกิน 500,000.บาท แต่ทั้งหมดนี้ไม่เกิน 15 เท่าของเงินบำนาญ
4. เงินช่วยพิเศษ (ถึงแก่กรรม) = เงินบำนาญ x 3 เท่า โดยมอบให้กับผู้ที่ผู้รับบำนาญแสดงเจตนาหรือทายาทตามกฎหมาย
5. เงินบำเหน็จตกทอด (ถึงแก่กรรม) = เงินบำนาญ x 30 เท่า – เงินบำเหน็จดำรงชีพที่เบิกไปแล้ว
โดยมอบให้กับทายาทตามกฎหมายหรือผู้ที่ผู้รับบำนาญแสดงเจตนา (กรณีที่ไม่มีทายาท) และถ้าไม่มีผู้รับให้สิทธิบำเหน็จตกทอดเป็นอันยุติลง
ข. กรณีข้าราชการเป็นสมาชิก กบข.
ก) กรณีรับบำเหน็จ = เงินเดือนเดือนสุดท้าย (เศษเดือนเศษวันเป็นจุดทศนิยม x อายุราชการ (รวมอายุราชการทวีคูณ) กรณีนี้จะได้รับเงินก้อนเดียว และสิทธิต่าง ๆ ระงับไป ยกเว้นการขอพระราชทานเพลิงศพ
ข) กรณีรับบำนาญ = เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย x อายุราชการ (รวมอายุราชการทวีคูณ เป็นจุดทศนิยม) หารด้วย 50 แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 70% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือน
กรณีนี้จะได้รับเงินทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต และยังมีสิทธิได้รับสิทธิต่าง ๆ เหมือนกับบำนาญปกติ
นอกจากนั้น สมาชิก กบข.ยังได้รับเงิน
1. เงินสะสม + ผลประโยชน์
2. เงินประเดิม + ผลประโยชน์
3. เงินชดเชย + ผลประโยชน์
4. เงินสมทบ + ผลประโยชน์
ส่วนผู้ที่ลาออกจาก กบข.จะได้เงินสะสมของตนเองคืน
ค. ข้าราชการได้เงินต่าง ๆ ที่สมัครเป็นสมาชิก
ก) เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ เช่น เงิน ชงพ.ค. ช.พ.ส. หรือ ชื่ออย่างอื่นในลักษณะเดียวกัน
ข) เงินผลประโยชน์จากหุ้นสหกรณ์
ค) เงินประกันชีวิตและเงินช่วยเหลือจากสหกรณ์
กรณีผู้รับบำนาญตายผู้ที่ได้รับคือผู้ที่ผู้รับบำนาญแสดงเจตนาหรือทายาทตามกฎหมาย
ทายาทตามกฎหมาย ได้แก่ บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย (ได้รับคนละ 1 ส่วน) สามีภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมาย (ได้รับ 1 ส่วน) บิดามารดาหรือบิดาหรือมารดาที่มีชีวิตอยู่ (ได้รับ 1 ส่วน)